ชนิดของสายไฟ

ทำความรู้จักกับ 5 ชนิดของสายไฟฟ้า

ระบบไฟฟ้าภายในบ้าน นับว่าเป็นระบบที่สำคัญและใกล้ตัว โดยเฉพาะการเลือกใช้ ชนิดของสายไฟฟ้า ให้ถูกประเภทกับการใช้งาน เพื่อความปลอดภัยต่อระบบไฟฟ้าหรือแม้แต่สมาชิกในบ้าน ซึ่งการเลือกใช้สายไฟแต่ละประเภท ก็จะมีข้อจำกัดและวิธีการใช้ที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้น เราจะพาคุณมาทำความรู้จักกับ 5 ชนิดของสายไฟ ฉบับเข้าใจง่าย เพื่อให้นำไปใช้ได้อย่างถูกต้อง เหมาะสม และใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

สำหรับการเลือก ชนิดของสายไฟ ให้เหมาะสมในการใช้งานภายในอาคารหรือครัวเรือน ก่อนอื่นควรมาทำความรู้จักก่อนว่า สายไฟแต่ละชนิดทำงานอย่างไร และมีลักษณะแบบไหนบ้าน

  1. หน้าที่ของ “สายไฟฟ้า”
  2. ชนิดของสายไฟฟ้า ที่ควรรู้
  3. 5 ชนิดของสายไฟฟ้า สำหรับการใช้งานในบ้าน
  4. Tips น่ารู้ ระบบไฟและการเดินสายไฟในครัวเรือน

หน้าที่ของ “สายไฟฟ้า”

สำหรับ “สายไฟฟ้า” นับว่าเป็นตัวกลางสำหรับการนำกระแสไฟฟ้าจากแหล่งจ่ายไฟ ส่งไปยังอุปกรณ์ไฟฟ้าต่าง ๆ อย่างเช่น สายไฟคอนโทรล ก็จะเป็นประเภทที่นำมาใช้ในอุตสาหกรรม

  1. ตัวนำไฟฟ้า (Conductor)

มีทำหน้าที่ส่งกระแสไฟฟ้าให้ไหลผ่านไปยังอุปกรณ์หรือเครื่องใช้ไฟฟ้า มีความต้านทานไฟฟ้าต่ำ แต่มีค่าความนำไฟฟ้าสูง ทำจากโลหะ เช่น ทองแดง อะลูมิเนียม

  1. ฉนวนไฟฟ้า (Insulation)

ทำหน้าที่ป้องกันไม่ให้กระแสไฟฟ้าจาก ชนิดของสายไฟ ไหลไปยังส่วนอื่น ๆ ที่อาจส่งผลให้เกิดอันตรายได้ ไม่ว่าจะเป็น ไฟฟ้าลัดวงจร ไฟรั่ว ซึ่งฉนวนจะทำจากยางหรือพลาสติกโพลิเมอร์ ที่มีคุณสมบัติทนความร้อนได้ดี และสามารถป้องกันของเหลวไหลผ่าน นิยมทำจากฉนวน PVC และ ฉนวน XLPE

  1. เปลือกนอก (Over Sheath)

พลาสติกโพลิเมอร์ ซึ่งจะอยู่นอกสุดของสายไฟฟ้า มีหน้าที่ป้องกัน ชนิดของสายไฟ จากสิ่งต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น การกระแทก รอยขูดขีด ความชื้น น้ำ หรือแม้แต่แสงแดด โดยวัสดุที่นิยมนำมาทำเปลือกนอก คือ PVC, PE และ LSHF

ชนิดของสายไฟฟ้า ที่ควรรู้

หากแยก ชนิดของสายไฟ ตามรูปแบบของสายไฟ เพื่อประกอบการใช้งานในลักษณะต่าง ๆ สามารถแยกออกเป็น 2 ชนิดหลัก ๆ ด้วยกัน คือ

  1. สายไฟแรงดันต่ำ (Low Voltage Power Cable)

  • เป็นสายไฟที่ใช้กับแรงดันไฟฟ้าไม่เกิน 750 โวลต์
  • ตัวสายไฟทำจากอะลูมิเนียม หรือทองแดง (ได้รับความนิยมสูงสุด ทั้งสายไฟฟ้าสำหรับติดตั้งในอาคาร หรือแม้แต่การติดตั้งใต้ดิน)
  • ฉนวนที่ใช้กับ ชนิดของสายไฟ ประเภทนี้คือ PVC และ XLPE
  1. สายไฟแรงดันสูง (Hight Voltage Power Cable)

  • เป็นสายตีเกลียวที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่
  • แบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ๆ คือ แบบหุ้มฉนวน และแบบเปลือย
  • สามารถรองรับแรงดันไฟฟ้าได้ตั้งแต่ 1 – 36 กิโลโวลต์ (1,000 โวลต์ = 1 กิโลโวลต์)

สายไฟมีกี่ชนิด

5 ชนิดของสายไฟฟ้า สำหรับการใช้งานในบ้าน

  1. สายไฟ THW

สำหรับ ชนิดของ สายไฟ THW นี้ สามารถทนแรงดันได้ 750 โวลต์ ใช้ในวงจรไฟฟ้า 3 เฟสปกติ นับว่าเหมาะสำหรับการใช้ภายในบ้าน

  1. สาย VAF

โดย ชนิดของสายไฟฟ้า VAF จะใช้สำหรับการเดินบนผนัง และเดินในช่องเดินสายไฟ ไม่ควรร้อยในท่อ หรือกลบฝังดินโดยเด็ดขาด ซึ่งสายไฟชนิดนี้สามารถทนแรงดันได้ 300 โวลต์ มีให้เลือกทั้งแบบสายเดี่ยว สายคู่ และชนิดที่มีสายดินอยู่ด้วย นอกจากนี้ ยังมีทั้งแบบ 2 แกน และ 3 แกน 

  1. สายไฟ VCT­­, VCT-G

สายไฟชนิดนี้จะเป็นสายกลม มีทั้ง 1 แกน, 2 แกน, 3 แกน และ 4 แกน ซึ่งเป็น ชนิดของสายไฟ ที่มีพิกัดแรงดันอยู่ที่ 450/750 โวลต์ โดยภายในสายไฟจะเป็นแบบฝอยเส้นเล็ก ๆ ที่รวมกัน ทำให้มีความอ่อนตัว และสามารถทนต่อการสั่นสะเทือนได้

ฉะนั้น ชนิดของ สายไฟ VCT จึงเหมาะสำหรับการต่อกับเครื่องใช้ไฟฟ้าชนิดต่าง ๆ เช่น ใช้เป็นสายเดินเข้าเครื่องจักร หรือการใช้สว่านไฟฟ้าในครัวเรือน และหากเป็นสาย VCT-G จะมีสายดินเดินเพิ่มเข้ามาอีกเส้นหนึ่ง ช่วยให้ใช้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ต้องต่อลงดินได้

  1. สายไฟ IV

ชนิดของสายไฟ IV เป็นสายเดียวหรือแบบแกนเดี่ยว ที่ทนแรงดันไฟฟ้าได้ 300 โวลต์ เหมาะสำหรับการเดินสายเข้าบ้านหรืออาคารที่ใช้ไฟฟ้าระบบ 1 เฟส โดยการใช้งานนั้น หากเดินสายลอยจะต้องยึดด้วยวัสดุฉนวน แต่หากเดินสายในรางเก็บสายไฟ จะต้องเดินสายในพื้นที่ที่แห้ง ไม่ควรต่อสายลงดินอย่างเด็ดขาด

  1. สาย NYY, NYY-G

ชนิดของสายไฟ NYY เป็นสายไฟที่มีทั้งแบบแกนเดียวและหลายแกน ซึ่งตัวสายแกนจะเป็นสายชนิดกลม โดยตัวสายไฟมีพิกัดแรงดันอยู่ที่ 450/750 โวลต์ มีความทนทานต่อสภาพแวดล้อมได้ดี เนื่องจากตัวสายมีเปลือกหุ้มอีกชั้นหนึ่ง บางคนอาจจะเรียก ชนิดของสายไฟ นี้ว่า สายฉนวน 3 ชั้น แต่ในความเป็นจริงก็คือ มีฉนวนเพียง 1 ชั้น และอีก 2 ชั้น เป็นเปลือกชั้นใน ที่คอยทำหน้าที่ตีเกลียวของสายแต่ละแกนให้เข้าด้วยกันเป็นทรงกลม

อนึ่ง ข้อจำกัดของสายไฟชนิดนี้ ก็คือ มีความอ่อนตัวน้อยกว่าสายไฟแบบ VCT ดังนั้น จึงทำให้เหมาะกับการใช้ภายในบ้างโดยการวางบนรางสายไฟ การร้อยในท่อฝังดิน หรือฝังดินโดยตรงได้เลย

สาระน่ารู้ : สายไฟ CV นับว่าเป็น ชนิดของสายไฟฟ้า หุ้มฉนวน PE ซึ่งเป็นชนิดที่อยู่นอกมาตรฐานของ มอก. แต่เป็นสายไฟที่ผลิตตามมาตรฐาน IEC ซึ่งตัวฉนวนสามารถรองรับอุณหภูมิได้ถึง 90 องศาเซลเซียส สามารถติดตั้งได้หลายแบบ เช่น เดินในรางเดินสาย เดินลอยในอากาศ หรือแม้แต่ร้อยท่อฝังดิน

Tips น่ารู้ ระบบไฟและการเดินสายไฟในครัวเรือน

  1. การใช้สายเมน

ถือว่าเป็นหัวใจหลักของระบบไฟฟ้า เนื่องจากเป็น ชนิดของสายไฟ ที่เดินจากมิเตอร์ไฟฟ้ามาที่แผงเมนสวิตช์ หรือก็คือตู้เมนไฟฟ้าของบ้าน โดยการติดตั้งสายเมนจะต้องมีองค์ประกอบดังนี้

  • สายเมนที่เลือกใช้ ควรเป็นชนิดที่ใช้สายตัวนำทองแดงหุ้มฉนวน
  • มีขนาดที่เพียงพอต่อการโหลดรวมของทุกวงจร เช่น มิเตอร์ 15 (45)A สายเมนไม่ควรต่ำกว่า 10 ตร.มม.
  • ตัวนำสายเมน จะต้องรองรับกระแสไฟฟ้าได้ไม่ต่ำกว่า 25 เท่า ของการโหลดสูงสุดจากมิเตอร์ไฟฟ้า
  1. การติดตั้งสายดิน
  • ขนาดของสายดินที่ต่อเข้าปลั๊กเต้ารับและอุปกรณ์ไฟฟ้า ต้องเลือกจากขนาดของเบรกเกอร์ในวงจร
  • สายดินที่ใช้ในระบบไฟฟ้า จะต้องเป็นสายไฟฟ้าชนิดแกนเดียว
  • ภายในอาคารเดียวกัน หรือบ้าน 1 หลัง ควรต่อสายลงดินเพียง 1 จุด ไม่ควรมากกว่านี้
  • ไม่ควรใช้ระบบไฟ 220 โวลต์ กับเซอร์กินเบรกเกอร์ชนิด 120/240 โวลต์
  • ในกรณีที่เดินสายไฟในท่อโลหะ จะต้องทำการเดินสายดินรวมในท่อเส้นนั้น ๆ ด้วย
  1. การติดตั้งสวิตช์ และเต้ารับ ควรติดตั้งให้สูงมากกว่าระดับน้ำที่อาจท่วมได้
  2. วงจรสายไฟย่อย

ในกรณีที่บ้านเคยเผชิญกับปัญหาน้ำท่วมมาก่อน การติดตั้งเต้ารับที่อยู่ชั้น 1 หรือชั้นล่างของบ้าน ควรใช้เครื่องตัดไฟรั่ว หรือตัวกันดูด เพื่อป้องกันไฟฟ้าดูดในกรณีที่อาจเกิดเหตุการณ์น้ำท่วม และสายไฟที่ใช้สำหรับวงจรย่อยจะต้องมีขนาดไม่น้อยกว่า 25 ตร.มม.

  1. ประเภทของบ้าน
  • บ้านชั้นเดียว แนะนำว่าให้ติดตั้งตู้ควบคุมวงจรไฟฟ้าให้อยู่ในที่สูงประมาณ 6 เมตร
  • บ้าน 2 ชั้น ควรแยกตู้ควบคุมวงจรไว้ที่ชั้น 2 ของบ้าน และควรแยกวงจรสายไฟย่อยอย่างน้อยชั้นละ 1 วงจร

สำหรับ ชนิดของสายไฟฟ้า ทั้ง 5 ชนิด ที่เรานำมาอธิบายในข้างต้น นอกจากจะช่วยทำให้คุณสามารถเลือกสายไฟสำหรับใช้งานในบ้านได้อย่างถูกต้องและเหมาะสมแล้ว ยังช่วยให้รู้ว่าหน้าที่ ชนิดของสายไฟ แต่ละแบบ ทำงานอย่างไรบ้าง แล้วควรเดินสายไฟแบบไหนถึงจะดีที่สุด เพื่อให้ปลอดภัยทั้งระบบไฟฟ้าภายในบ้าน รวมถึงการใช้ไฟฟ้าของสมาชิกในครอบครัว